นมัสเตอินเดีย: ทำไมคนไทยบางกลุ่ม ถึงไม่อยากมาเรียนอินเดีย

                                                                                     
ครับ! เป็นที่ทราบกันดีว่า ปัจจุบันมีคนไทยตบเท้าเข้ามาเรียนในอินเดียเป็นจำนวนมาก อาจจะเนื่องจากเห็นลู่ทางในการศึกษา ที่ไม่แพงมากนักและอยู่ใกล้ประเทศไทย การเดินทางไปมาสะดวกสบาย บางครั้งก็หาเหตุผลมาอธิบายไม่ได้มากนักว่าทำไม คนไทยกลุ่มหนึ่งถึงอยากมาเรียนอินเดีย ทั้งที่คนไทยอีกกลุ่มหนึ่งไม่อยากจะมา เท่าที่เคยได้พูดคุยหรือสอบถาม ถึงคนไทยกลุ่มหนึ่งที่ไม่อยากจะมาเรียน ไม่มีเหตุผลอะไรมากไปกว่า อินเดียสกปรก ขอทานเยอะ เป็นประเทศยากจน ไม่น่าอยู่ แขกกลิ่นตัวเหม็น ไปก็ได้แต่ภาษาอังกฤษสำเนียงแขก สรุปคร่าวๆก็คือมีเหตุผลเพียงเท่านี้เอง ที่ไม่อยากมา เหตุที่ยกมา ดูเหมือนว่า มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการศึกษาเลย และเป็นที่น่าเสียดายว่า ยังมีคนไทยกลุ่มหนึ่งจริงๆนะครับ ที่คิดเอาเองว่า อินเดียสกปรกทั้งประเทศ ทั้งที่ประเทศอินเดียกว้างใหญ่มากๆ จากภาคใต้ถึงภาคเหนือเดินทางโดยรถไฟใช้เวลาเกือบอาทิตย์ และประชากรคนของเขาบางรัฐเยอะกว่าเมืองไทยเกือบสามเท่า ดังนั้นความยากจนย่อมมีแน่นอน บ้านเมืองย่อมสกปรกแน่นอน คนที่ไม่มีความรู้ ความไม่เท่าเทียมกันย่อมสร้างปัญหาให้แน่นอน แต่หากเรามาเอาความรู้ สิ่งเหล่านี้มันอยู่นอกรั้วมหาวิทยาลัยทั้งนั้น

มีคำพูดคำหนึ่ง มันสอนผมตั้งแต่ผมลงเครื่องบินเลย นั่นก็คือ ผมมาเรียน อินเดียจะเป็นอย่างไรก็ช่างแมร่งหัวเขา (ขอโทษที่ผมพูดหยาบคาย แต่ก่อนผมคิดอย่างนี้จริงๆ) ผมจะมองอินเดียอย่างที่เขาเป็น ถึงแม้บางอย่างผมอยากให้เขาเป็นเหมือนอย่างที่ใจผมอยากให้เขาเป็น แต่เขาก็จะเป็นอย่างที่เขาเป็น ก็มีบ้างที่ผมมักจะเสียอารมณ์เพราะระบบ มีบ้างที่บางอย่างผมรับไม่ได้ แต่ผมก็อยู่ได้ ในท่ามกลางความวุ่นวาย ไม่น่าเชื่อแต่ต้องเชื่อ ผมก็อยู่มาได้หลายปีแล้ว ผมอยู่เพื่อการศึกษา และความลำบากเหล่านั้น มันไม่มีสอนในห้องเรียนครับ ที่เมืองไทยไม่มีขาย

ระบบที่นี้ล่าช้าหรือไม่เหมือนบ้านเรา แต่นี่คือเสน่ห์ของแขกจริงๆนะครับ ศ.ลาลจี เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ผมเอง ท่านเคยพูดเอาไว้ว่า หากใครอยู่อินเดียได้ อยู่ที่ไหนก็ได้ในโลกใบนี้ หากใครขับรถในอินเดียได้ ขับรถที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้ อินเดียคือสนามฝึกชั้นยอดก่อนที่จะออกไปสู้รบปรบมือกับใครอีกหลายๆคนภายนอกมหาวิทยาลัย บางครั้งความเห็นแก่ตัวของแขก ก็สอนทำให้เราเข้มแข็งขึ้น ทำให้เราระมัดระวังตัวเองมากขึ้น มีสติมีปัญญากับการใช้ชีวิตมากขึ้น ส่วนเรื่องมาเรียนอินเดียแล้วจะได้ภาษาอังกฤษสำเนียงแขกกลับไป โปรดกลับไปอ่านในหัวข้อเรียนภาษาอังกฤษที่อินเดียนะครับ ผมได้บอกเหตุผลในเรื่องนี้ในหัวข้อนั้น ถึงข้อดีและข้อเสียในการเรียนภาษาอังกฤษในอินเดีย 

มันก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและมุมมองของแต่ละท่าน ว่าทำไมถึงเลือกอินเดียเป็นคำตอบที่ถูกต้อง ในการมาศึกษาเล่าเรียน แต่สำหรับผู้เขียน มีความเห็นส่วนตัว ตรงที่ว่า อินเดียคือแหล่งที่เรียนรู้ ศาสนาและวัฒนธรรมที่เก่าแก่ คงไม่มีใครปฎิเสธใช่ไหมว่า อินเดียและจีนคือประเทศตะวันออกที่มีอู่อารยธรรมยาวนานมาก ไม่ว่าจะเป็นปรัชญาจีนและปรัชญาอินเดีย ล้วนแล้วมีอิทธิพลต่อความคิดของซีกโลกตะวันออกเป็นอย่างมาก เช่นพระพุทธศาสนาและศาสนาฮินดู ดูได้จากเมืองไทยได้รับอิทธิพลจากศาสนาพราหมณ์(ฮินดู)เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นพิธีกรรมบางอย่าง เช่น แรกนาขวัญ การตั้งชื่อ เป็นต้น เหล่านี้ล้วนแล้ว กำเนิดมาจากศาสนาพราหมณ์ ถึงแม้เมืองไทยส่วนใหญ่จะนับถือพระพุทธศาสนา แต่อิทธิพลของศาสนาพราหมณ์ก็มีอิทธิพลต่อความคิดและการดำรงชีวิตของคนไทยอย่างปฎิเสธไม่ได้ ดังนั้นเมื่อได้มาศึกษายังอินเดีย เหมือนได้มาเห็นและสัมผัสถึงกลิ่นไอของต้นน้ำแห่งศรัทธาและปรัชญาของคนอินเดียด้วยตัวเอง

                                                                                     

ประการที่สอง อินเดียไม่ได้มองการศึกษาเป็นธุรกิจเหมือนบางประเทศ ที่ปริญญาโทและปริญญาเอก เรียนได้เฉพาะคนมีเงินเท่านั้น ในรั้วมหาวิทยาลัยคือแหล่งที่นักเรียนมาแสวงหาความรู้จริงๆ และสิ่งที่เราจะได้ติดปลายนวมมาด้วยนั่นก็คือ วิสัยทัศน์ได้เห็นความแตกต่างระหว่างการปกครองและระบบการเรียนการสอนระหว่างบ้านเราและบ้านเขา บ้านเราขาดอะไร ควรเสริมอะไร อินเดียมีอะไรมีดีอะไรที่บ้านเรายังขาด หรือเมืองไทยมีอะไร ที่อินเดียยังไม่มีหรือยังขาด ดั่งปราชญ์เหลาจื้อได้พูดเอาไว้ ในโลกนี้เรารู้ว่ามีคนดำ ก็เพราะมีคนขาว มีคนสูงก็เพราะมีคนเตี้ย มีคนขี้เหร่ก็เพราะมีคนสวย เมื่อได้ยินแต่เขาเล่าว่าอินเดียสกปรก ไม่ดี แต่ไม่เคยมา แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าอินเดียมันต่างจากเมืองไทยอย่างไร แล้วเมืองไทยดีกว่าอินเดียอย่างไร ทำไมคนไทยกลุ่มหนึ่งและต่างชาติกลุ่มหนึ่งถึงอยากจะมาเรียน หากอินเดียไม่ดี ทำไมถึงมีคนมาเรียน!

สุดท้ายแต่อาจจะไม่ใช่ทั้งหมดของเหตุผล นั่นก็คือ ขอให้ได้พูดภาษาอังกฤษได้บ้าง เพราะเรียนที่เมืองไทย เราต้องยอมรับว่า นักศึกษาบางท่านแม้จะเรียนจบปริญญาโทหรือปริญญาเอก แต่ก็ยังพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ผมขอยืนยันว่า ระบบการสอนภาษาอังกฤษที่เมืองไทยล้มเหลว เพราะสอนผิดวิธี เพราะเน้นสอนไวยากรณ์มากเกินไป แต่ไม่ค่อยสอนในด้านการฝึกฟัง การพูด และสนทนา เป็นเหตุทำให้นักศึกษาหรือนักเรียนเป็นจำนวนมาก ถึงแม้จะจบเอกอังกฤษหรือเรียนภาษาอังกฤษ แต่ก็ยังไม่กล้าใช้ภาษาอังกฤษเพราะกลัวพูดผิดไวยากรณ์ บางคนถึงกับเชื่อสนิทใจว่า หากต้องการพูดภาษาอังกฤษเก่ง จำเป็นต้องจำไวยากรณ์ทั้ง 12 tenses ให้ได้เสียก่อน ยกตัวอย่างง่ายๆนะครับ คนไทยพูดภาษาไทยเก่งมาก แต่จะมีสักกี่คนที่เก่งไวยากรณ์ภาษาไทย มีคนไทยเป็นจำนวนมาก ที่เก่งไวยากรณ์ภาษาอังกฤษมากกว่าฝรั่ง เพราะเราเรียนแต่ไวยากรณ์ ไม่ค่อยได้เรียนการฟัง การพูด ดังนั้นคนไทยกลุ่มหนึ่งจึงคิดว่า การมาเรียนอินเดีย น่าจะทำให้ตัวเองได้ฟัง ได้พูดภาษาอังกฤษบ้าง และสถานะการณ์การเงินมีขีดจำกัด หากทุกคนรวยและมีเงิน เขาไม่มาอินเดียกันหรอกครับ ประเทศอังกฤษ อเมริกาหรือแคนาดา ย่อมเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ แต่หากไปประเทศเหล่านั้นไม่ได้ อินเดียคือตอบคำตอบที่พอทดแทนได้

                                                                                    

ทุกคนย่อมเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง แต่หากสิ่งที่เราเลือก มันเลือกได้ระดับหนึ่ง อินเดียอาจจะดูขี้เหร่สำหรับใครบางคน แต่อาจจะดูดีสำหรับใครอีกหลายๆคน สำหรับผม อินเดียอาจจะไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุด แต่หากคุณฝันที่จะไปถึงดวงดาว แต่ไปถึงแค่บนยอดเขา มันก็ยังดีกว่า อยู่ตีนเขาไม่ใช่เหรอ ครับ! บางครั้ง อินเดียก็คือยอดเขาสำหรับอีกหลายๆคน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น