นมัสเตอินเดีย:เล่าเรื่องด้วยภาพ อินเดี๊ย อินเดีย

ภาพ 1 ใบแทนความหมายได้มากมายหรืออาจจะแทนคำพูดได้หลายล้านคำ มีเรื่องมากมายที่อยากเล่าให้ฟัง แต่บางครั้งการเล่าเรื่องด้วยภาพ ก็อาจจะเป็นอีกวิธีหนึ่ง ที่ทำให้ได้อรรถรสถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นหรืออาจจะเป็นภาพที่สามารถพบเห็นได้ในเมืองพาราณสี แต่เชื่อเถอะ มีคนอีกหลายล้าน ที่ยังไม่รู้ว่าเขาทำอะไร เลยหยิบยกมาเล่าสู่กันฟัง ด้วยภาพ.....
                                                                       

สภาพบ้านเรือนของเมืองพาราณสีและภาพบรรยากาศแม่น้ำคงคา ช่วงนี้เป็นช่วงฤดุร้อน แม่น้ำคงคาเลยดูใส หากอยู่ในช่วงฤดูฝน ต้องส่ายหน้า พร้อมกับพูดว่า ดูไม่จืด! เนินทรายที่เห็น น้ำจะท่วมหมด ช่วงน้ำลด ซากโครงกระดูก เพียบ!


นี่คือภาพปกติของทุกตรอกซอกซอยในเมืองพาราณสี เห็นกองขยะที่ไหนจะเห็นมีวัวควายที่นั่นเพราะเราเกิดมาคู่กัน


สิบปากว่าไม่เท่ากับได้เห็นด้วยตาตัวเอง ย่านชุมชนบริเวณโกลโดเลียหรือใกล้ๆแม่น้ำคงคา ทุกซอยจะเป็นสภาพนี้เลย

แม่น้ำคงคาไม่ใช่มีแต่คนมาอาบน้ำหรือลอยบาปกันเท่านั้น พี่ควายก็มาอาบและลอยบาปกับเขาด้วย โดยที่เราก็ไม่รู้ว่า ควายเหล่านี้ไปทำความชั่วอะไรมา เชื่อปะ! บางโซนหรือบางท่า ที่เขามาอาบน้ำ เขากินน้ำคงคาด้วยนะ ด้านบนควายอาบ ด้านล่างคนอาบและกินน้ำด้วย ขณะที่ อีกที่เผาศพ โอ๊วแม่เจ้า!

นี่คือบ้านแห่งสุดท้ายของคนพาราณสี ไม่ว่ายากดีมีจนอย่างไร สุดท้ายต้องมาเผาที่นี้หมด เขาจะมีเป็นท่าๆ เรียกว่า ฆาต หมายถึงท่า บ้านเรามักจะพูดกันติดปากว่า ดวงยังไม่ถึงฆาต ก็คือดวงไม่ถึงที่ตายนั่นเอง ส่วนท่าตรงนี้ก็คือท่ามณิกรรณิการ์ฆาต เป็นท่าเผาศพที่ใหญ่มาก วันหนึ่งมีคนมาเผาประมาณ 120-150 ต่อวันครับ เผาตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุดราชการ ในบริเวณงาน มีแต่ผู้ชายมาร่วมงาน เขาห้ามไม่ให้ผู้หญิงมาร่วมงานครับ เรื่องมันมีที่มาที่ไป ก็คือว่า ผุ้หญิงสมัยก่อนโน้นเขารักสามีจริงๆ เวลาสามีตาย ผู้หญิงบางกลุ่ม เลยกระโดเข้ากองไฟตาม พวกพราหมณ์ก็เลยแต่ง บทกลอนเป็นร้อยแก้ว ร้อยกรองบ้าง สรรเสริญผู้หญิงเหล่านั้นว่า เป็น "สตี" หมายถึงผู้กล้าหาญ หลังจากนั้นก็มีผู้หญิงทำตามๆกันมา บางคนก็ไม่อยากทำ แต่พ่อผัวแม่ผัว จับโยนใส่กองไฟก็มี เมื่ออังกฤษเข้ามาปกครองอินเดีย เห็นว่ามันเป็นพิธีกรรมที่สยดสยอง เลยพยายามยกเลิก ในที่สุก็ยกเลิกได้ ดังนั้น ภาพที่เราเห็นจึงไม่ค่อยมีผู้หญิงมาร่วมในการเผาศพ (เหตุที่ผู้หญิงไม่มาร่วมงานเผา ไม่ขอเล่าแล้วกันนะครับ มันยาว)


กองไฟที่เราเห็นก็คือศพทั้งนั้นครับ ตรงนั้น 3 กองก็คือ 3 ศพ ส่วนอีกศพที่กำลังนอนอยู่ กำลังรอเอาศพไปอาบน้ำที่แม่น้ำ  สี่คนหาม สามคนแห่ หนึ่งคนนั่งแคร่ หลายคนมุงดู ที่อินเดียไม่ใช้โลงเหมือนบ้านเรา บ้านเราตายกันที หมดเงินกันเป็นหมื่นเป็นแสนเป็นล้าน คนอินเดียเสียเงินไม่ถึงหมื่นเขาก็ตายกันได้ อบต. อบจ. หรือส่วนราชการ ควรจะมาดูงานที่นี้บ้างนะครับ

อาคารที่เราเห็น ก็คือวังเก่าของพระกษัตริย์ทั้งหลาย ที่มาสร้างเอาไว้ใกล้ๆแม่น้ำคงคา เหมือนเป็นบ้านพักตากอากาาศ เอาไว้ในยามที่ป่วยหรือต้องการมาอาบน้ำชำระบาป บริเวณริมแม่น้ำคงคามีอยู่หลายวังด้วยกันครับ พออินเดียยกเลิกระบบกษัตรย์บางหลังเขาก็เปิดเป็น Guest House ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพัก ดูรูปทรงอาคารทำด้วยหินทรายแดงทั้งหลัง ดูก็พอเดาออก คงไม่ใช่สามัญชนแน่ๆที่เป็นเจ้าข้าวเจ้าของ

เด็กนักเรียนกำลังไปเรียน นั่งอยู่บนรถสามล้อปั่น

อยากรู้ว่ารถนักเรียนที่เมืองพาราณสีเป็นอย่างไร ในช่วงเช้าๆและบ่ายๆเราจะเห็นภาพเหล่านี้จนชินตา

บ้านผมคันนี้เขาเรียกว่า ตุ๊กๆ เพราะภาษาเหนือคำว่า ตุ๊กๆ แปลว่าลำบาก อยากรู้ว่าลำบากขนาดไหน คันหนึ่งนั่งได้ประมาณ 10-12 คน

เป็นรถรับส่งนักเรียนชนิดสามล้อปั่น ดูแล้วก็กลัวแทนพ่อแม่เด็กจริงๆ แต่สำหรับที่นี้ ปลอดภัยครับ เห็นไหมครับ หน้าตาเด็กแต่ละคนยิ้มแย้มกันทุกคน


รถขนหมู เอ้ย รถขนหนูๆนักเรียน อีกแบบหนึ่ง ชนิดใช้พลังงานแสงพระอาทิตย์และโรตีล้วนๆ


เด็กๆนักเรียนกำลังกลับบ้าน

ดูแล้วก็ไม่ต้องเครียดแทนผู้ปกครองเด็กนะครับ เพราะพ่อแม่เด็กแต่ก่อนก็เคยนั่งแบบนี้เหมือนกัน

หากไปจับจ่ายซื้อของในตลาด สภาพที่จะได้เห็นก็คือของขายประเภทแบบนี้หล่ะครับ และจะเหมือนกันหมดทุกร้าน มีอย่างเดียวที่ไม่ค่อยเหมือนกันนั่นก็คือ ราคาและคุณภาพของสินค้า ซื้อของที่อินเดียระวังเอาไว้อย่างหนึ่งนะครับ แขกเจ้าของร้านชอบหยิบของที่เสียเอามาให้ ควรเลือกด้วยตัวเอง ซื้อของอะไรอย่าให้แขกหยิบให้ เด็ดขาดนะครับ ขอบอก
                                        
                                 ไม่ว่าจะซื้อผลไม้หรือผัก ควรเลือกเองหยิบใส่ถุงเอง จะดีที่สุดหากไม่อย่างนั้นได้ผักเน่าหรือผลไม้เน่าแน่ๆ ก็ไม่ทุกร้านนะครับ เกือบ 80% ที่ชอบทำ โดยเฉพาะหากคุณเป็นชาวต่างชาติ อินเดียนี่แปลกอย่างหนึ่งนะครับ ร้านไหนหากเราเป็นลูกค้าประจำ มันชอบขึ้นราคานะ บ้านเรามีแต่ลด แต่ที่นี้โกงเอาๆ
                                                                                                                                                          

ท่านเหล่านี้คือนักบวชฮินดู หรือเรียกอีกอย่างว่า สาธุ บาบาจีหรือสามีจี บางกลุ่มก็ยังชอบทรมานร่างกายของตนให้ได้รับความลำบากอยู่ เรียกว่า อัตตกิลมัตถานุโยค (ไม่รู้เขียนถูกหรือเปล่า) ส่วนบางกลุ่มก็ยัง นุ่งลมห่มฟ้ากันอยู่

                                                     
นักบวชเหล่านี้ปัจจุบันนี้ก็ยังมีให้เห็นอยู่ แต่อาจจะไม่บ่อยนัก เนื่องจากจะมีเทศกาลสำคัญๆทางศาสนา ท่านถึงจะลงมาจากสถานที่ปฎิบัติ เช่น เทศกาลมหากุมภเมลา เป็นเทศกาลนักบวชชีเปลือยแก้ผ้า ช่วงนั้นเยอะมากๆ
                                                                                                                                                                                                             
ส่วนรูปนี้ ดูเหมือนท่านจะใบ้หวย บอกเป็นนัยยะ เห็นอะไร เป็นอะไร ก็เอาไปแทงกันเอาเองนะครับ ล้อเล่น จริงๆแล้ว ท่านกำลังฝึกโยคะครับ บางท่านก็ไม่ยอมให้ถ่าย บางท่านถ่ายแล้ว เราต้องเสียค่าลิขสิทธิ์นั่นก็คือ ต้องเสียตังค์ ค่าตัวแพงกว่านางแบบเสียอีก ให้ 5 รูปี ท่านไม่เอา อย่างน้อยๆ 20-30 รูป
สภาพการจราจรบนท้องถนน ส่วนมากจะมีฝุ่นเยอะ เนื่องจากโครงการถนนปลอดฝุ่น ยังไม่ผ่าน ครม


บนถนนมิตรภาพ วัวก็สามารถใช้ถนนนี้ได้เหมือนคนทั่วไปและก็ไม่มีใครจะว่าอะไรมันด้วย หากไม่อย่างนั้นเขาจะเรียกว่า ถนนมิตรภาพ เหร๊อ


สภาพบนท้องถนน บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัย นี่ถือว่าถนนโล่งสุดๆแล้วนะเนี่ย ขอบอก


ในช่วงเช้าคนอินเดียที่พาราณสีเขามักจะมาอาบน้ำกันที่แม่น้ำคงคา แต่คนที่นี้เรียกกังกา ลักษณะผู้หญิงมาอาบน้ำ เขาจะอาบกันทั้งชุด 

ช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนสิงหาคม คนอินเดียบางกลุ่มเขาจะแสวงบุญ ด้วยการไปไหว้แม่น้ำที่สำคัญๆหรือวัดที่สำคัญทางศาสนาฮินดู ช่วงนี้แม่น้ำที่คงคาก็ยังเยอะอยู่เพราะอยู่ในช่วงฤดูฝน

ส่วนตอนกลางคืนเขาจะทำพิธี อรติบูจา ข้างๆแม่น้ำคงคาทำทุกวันตอนเย็น บางช่วงก็เริ่มตั้งแต่ 19.00-21.00 ขึ้นอยู่กับฤดูด้วยหากเป็นฤดูหนาวก็จะย่นเวลาเข้ามาอีก เนื่องจากมืดไว

                                                 
ร้านหมอฟันข้างทางบริเวณ โกลโดลเลีย เมืองพาราณสี หนึ่งเดียวและเจ้าเดียว หากไปบริเวณนั้นจะเห็นร้านแกอยู่ข้างๆ ทาง ต้องเดินผ่านประมาณ 2 รอบ เพราะจะสับสนว่า ร้านแกคืออะไร เห็นแกทีไร มักจะนึกถึงหมอตำแยทุกที และผมคิดเสมอว่า สักวันหนึ่งจะเชิญแกมาออกรายการผมให้ได้ ในที่สุด ผมก็ได้อัญเชิญแกให้มาออกรายการเว็บ Blogของผม ทุกวันนี้แกก็ยังมีชีวิตอยู่ ปณิธานของแกก็คือ ขอทำฟันให้เป็นจริง ไม่ใช่ทำฝันให้เป็นจริงนะครับ หากใครมาพาราณสี แล้วเกิดปวดฟันเสียวฟัน มาใช้บริการแกได้ เปิดทุกวันไม่เว้นวันโกนวันพระครับ ส่วนเครื่องไม้เครื่องมือ ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว จากการตากแดดหรือไม่ก็ต้มและลมควันรถข้างทาง เคยมีอยู่รายหนึ่ง แกมาถอนฟัน แกคงจะเสียวมากนะครับ น้ำตาไหลพรากเชียว เข้าไปถามๆดู แกบอกว่าแกไม่ได้ปวดฟัน แต่แกปวดหลัง แกแค่มานั่งมองดู คนข้างๆเท่านั้น แต่หมอฟันธงว่าฟันผุแน่นอน ก็เลยถอนให้
                                                                                               

ส่วนภาพที่ท่านเห็นนั่นก็คือ เราเห็นคนตายที่พาราณสี ส่วนมากเขาจะไม่ใส่โลง ใส่แคร่และก็เอาผ้าคลุม เอาไปเผาที่แม่น้ำคงคา ส่วนแคร่จะทำให้ด้วยไม้ไผ่ คล้ายๆ บันไดเล็กๆ งานศพที่นี้ค่อนข้างจะเรียบง่ายหรือแทบไม่มีอะไรทำให้เจ้าภาพยุ่งยากเลย ตายก็เอาไปเผาภายใน 24 ชั่วโมง เวลาเดินไปเขาจะร้องบทสวดทำนองว่า รามะนาม สัจจะ แฮ่ คำว่า แฮ่ๆ นี้ไม่ใช่เหนื่อยนะครับ เป็นกริยาของคำพูด ความหมายทำนองว่า พระนามของพระรามนั่นแหละเป็นความจริง หากจะอรรถาธิบายก็คือ ทุกคนเกิดมาต้องตาย เพราะนี้คือคำตอบสุดท้ายของทุกๆคนครับ จำเขามาพูดอีกทีหนึ่ง
       
เอาไว้จะมาอัพเดทให้ทีหลังนะครับ ส่วนวันนี้ยุงกัด จะตบยุงก็กลัวบาป ไปก่อนหล่ะ บ๊าย บาย รักนะ จุ๊บๆๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น